Business Nature

ลักษณะธุรกิจ

1. ประวัติความเป็นมา

          บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจการจำหน่าย ติดตั้ง และพัฒนาระบบสารสนเทศในด้านของซอฟต์แวร์ ประกอบธุรกิจให้คำปรึกษาพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร (System Integrator) ทั้งการวางระบบเครือข่าย (Network) การจัดหาอุปกรณ์ (Hardware) และพัฒนาโปรแกรม (Software Development) ตามความต้องการของลูกค้า (Tailor Made) โดยมีลูกค้าหลัก คือ องค์กรภาครัฐและรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่  ซึ่งบริษัทฯ มีมาตรฐานการในการให้บริการลูกค้าสอดคล้องกับระบบคุณภาพตามมาตรฐาน เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และความไว้วางใจในการให้บริการของบริษัทฯ เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะออกแบบพัฒนาระบบงานตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้มีคุณภาพได้มาตราฐาน มีบริการส่งมอบงานที่ตรงเวลาเพื่อสร้างความพึงพอใจ อย่างสูงสุดให้กับลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยรวมทั้ง บุคลากรที่มีคุณภาพ มีประสบการณ์ มีความเชี่ยวชาญ มีความรู้ ความสามารถ เพื่อสร้างผลงานที่ดีเยี่ยมให้กับลูกค้า นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีจุดมุ่งหมายในการลงทุนในธุรกิจสื่อ โดยมุ่งเน้นให้เป็นสื่อประเภทข่าวครบวงจร ปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีทุนจดทะเบียน 158,475,296,472 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นแปดพันสี่ร้อยเจ็ดสิบห้าล้านสองแสนเก้าหมื่นหกพันสี่ร้อยเจ็ดสิบสองบาทถ้วน) ทุนชำระแล้วเป็น 105,650,197,648 บาท (หนึ่งแสนห้าพันหกร้อยห้าสิบล้านหนึ่งแสนเก้าหมื่นเจ็ดพันหกร้อยสี่สิบแปดบาทถ้วน)

2. การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญ

  • เดือน พฤศจิกายน  2565 บริษัท ทำการย้ายสถานประกอบการ (สำนักงานใหญ่) จากเดิม เลขที่ 333 อาคารเล้าเป้งง้วน 1 ชั้น 27 โซนเอ ซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900  ไปยังที่ทำการใหม่เป็น 944 โครงการสามย่านมิตรทาวน์ ชั้นที่ 28 ห้องเลขที่ 2807-2810 ถนนพระราม 4 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
  • เดือน เมษายน บริษัท ได้จดทะเบียนลดทุนจาก 43,684,661,600 บาท เป็น 43,479,374,400 บาท และจดเพิ่มทุนหุ้นสามัญเพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ให้แก่นักลงทุนจากทุนจดทะเบียนเดิม43,479,374,400 บาท เป็น 73,479,374,400 บาท
  • เดือน กันยายน บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค มัลติมีเดีย (บริษัทย่อย) ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ฐานเศรษฐกิจ เพื่อผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ เป็นระยะเวลา 30 ปี
  • เดือน ธันวาคม บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ทำสัญญาความร่วมมือกับ บริษัท เทอร์เนอร์ บรอดคาสติ้ง ซิสเท็ม เอเชียแปซิฟิคอิงค์ ซึ่งเป็นผู้บริหารสถานีโทรทัศน์  ซีเอ็นเอ็น อินเตอร์เนชั่นแนล ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค เพื่อเป็นพันธมิตรในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
  • เดือนเมษายน บริษัท เปลี่ยนชื่อจาก บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์(1998) จำกัด (มหาชน) เป็น บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อย่อหลักทรัพย์จากเดิม “SLC” เป็น “NEWS” และได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ จากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท
  • เดือน กุมภาพันธ์ บริษัทลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 3,712,369,800 บาท เป็น 3,299,369,800 บาทและเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 3,299,369,800 บาท เป็น 6,524,094,143 บาท
  • เดือน ตุลาคม บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 6,524,094,143 บาท เป็น 100,680,660,688 บาท
  • เดือนกุมภาพันธ์ บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์(1998) จำกัด (มหาชน)  ลงทุนใน บริษัท เอ็นไวรอนเมนทอล โซลูชั่น อินทิเกรเตอร์ จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิม ร้อยละ 90% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว
  • เดือนกุมภาพันธ์ บริษัทลดทุนจดทะเบียนจากเดิม 2,912,369,800  เป็น 2,212,369,800 บาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม  2,212,369,800 บาท เป็น 3,712,369,800 บาท
  • เดือนสิงหาคม บริษัทฯ ได้ผ่านการรับรองการตรวจต่ออายุ ครั้งที่ 3 (Re-Certification) จาก Bureau Verities Certification (Thailand) Ltd. ว่ากระบวนการทำงานของบริษัทได้มาตรฐาน ISO 9001:2008
  • บริษัท ซิงค์ เทคโนโลยี จำกัด ได้ดำเนินการขอรับใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ตแบบที่สามต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยในวันที่ 24 ธันวาคม 2556 กสทช.ได้มีมติอนุมัติการออกใบอนุญาตการให้บริการอินเตอร์เน็ต แบบที่สาม ให้แก่บริษัท ซิงค์ เทคโนโลยี จำกัด ที่ประสงค์จะให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโดยใช้โครงข่ายโทรคมนาคมของตนเอง โดยมีระยะเวลาการอนุญาต 10 ปี
  • วันที่ 27 ธันวาคม 2556 บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมประมูลขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่เพื่อให้บริการโทรทัศน์ทางธุรกิจระดับชาติ (หมวดหมู่ช่องรายการข่าวสารและสาระ)  โดยคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (“กสทช”)
  • เดือนธันวาคม บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อย)  ลงทุนในบริษัทใหม่ชื่อ บริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด
  • เดือนธันวาคม  บริษัท ซิงค์ เทคโนโลยี จำกัด (บริษัทย่อย) ได้รับการแต่งจาก  AHAINC CO.,LTD  ประเทศเกาหลี ให้ป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีด้านการเรียนการสอน
  • เดือนมกราคม ย้ายสำนักงานมาที่  เลขที่ 333 อาคารเล้าเป้งง้วน  1 ชั้น 18 โซนเอ ซอยเฉยพ่วง ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 เพื่อรองรับจำนวนพนักงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
  • เดือนมกราคม บริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อย)  ซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท ร่วมมือร่วมใจ จำกัด จากผู้ถือหุ้นเดิม ร้อยละ 99.99% ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว
  • บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (บริษัทย่อย) ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ซิงค์ เทคโนโลยี จำกัด เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554
  • เดือนมิถุนายน  บริษัทลดทุนจดทะเบียนจากเดิม  424,424,386 บาท เป็น 424,424,384 บาท
  • เดือนกรกฎาคม บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม  424,424,384 บาท เป็น  2,912,369,800 ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม ซึ่งเป็นทุนชำระแล้ว  1,515,258,000 บาท เพื่อรองรับการขายธุรกิจที่เติบโตขึ้น
  • เดือนกันยายน บริษัท สปริงนิวส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 100 ล้านบาท เป็น 200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม
  • บริษัทฯ ขยายธุรกิจและเปิดบริษัทในเครือเพิ่มขึ้น ได้แก่
    – บริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น จำกัด
    – บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
  • บริษัทฯ ผ่านการรับรองจาก BVQI (Thailand) Limited ว่ากระบวนการทำงานของบริษัทได้มาตรฐาน ISO 9001:2008
  • เดือนเมษายน บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 50,000,000 บาท เป็น 325,000,000 บาท
  • เดือนตุลาคมเพิ่มทุนเป็น 424,424,386 บาท ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิม ซึ่งเป็นทุนชำระแล้ว  303,051,600 บาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่เติบโตขึ้น
  • บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้ผ่านการประเมิน CMMI Level 3 อย่างเป็นทางการ
  • บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัล “เจ้าฟ้าไอที รัตนราชสุดา สารสนเทศ ครั้งที่ 4 ประเภทบุคคลทั่วไป” เป็นรางวัลผลงานโดดเด่นด้าน Education ซึ่งเป็นการคัดเลือกจากผลงาน จำนวน 88 ผลงาน ทั่วประเทศไทย โดยมีผลงานที่เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 12 ผลงาน และผลงานของบริษัท โซลูชั่นฯ เป็นผลงาน 1 ใน 4 ที่ได้รับคัดเลือก เข้ารับรางวัลดังกล่าวจากมูลนิธิวิจัยเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปีนี้
  • บริษัทฯ ได้เข้ารับอบรม SPI@ease : CMMI Achievement Series ในข้อ “Measuring the Benefits of Software Process Improvement” พร้อมรับโล่รางวัลจาก Software Park Thailand
  • บริษัทได้เข้าร่วมโครงการ รับรองมาตรฐาน CMMI Level 3 เพื่อยกระดับและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต การบริหารจัดการ คุณภาพของซอฟต์แวร์ และบริการด้านซอฟต์แวร์ของบริษัทผลิตซอฟต์แวร์ไทยให้มีศักยภาพที่จะเติบโตและขยายกิจการ และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
  • เข้าร่วมงาน The London Book Fair 2008 ที่ Earls Court, London ประเทศอังกฤษ
  • เข้าร่วมงาน Book Expo America 2008 Los ที่ Angeles Convention Center, LA, CA ประเทศอเมริกา
  • Thailand Entertainment Expo 2008 รอยัลพารากอนฮอลล์ 1-3 สยามพารากอน
  • บริษัท เพาเวอร์ ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ได้รับรางวัลโล่พระอาทิตย์ทองคำประจำปี 2551 โดยนำ เสนอผลงานการใช้ซอฟต์แวร์ไทยมาใช้อย่างเป็นเลิศได้ครบทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านคุณภาพการทำงาน, ด้านการลงทุน, ด้านการพัฒนานวัตกรรม และด้านสิ่งแวดล้อม โดยใช้โปรแกรม HRMS ของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)
  • งาน TMI 2008 Thai Mdical Informatics Association Annual Conference
  • ร่วมงาน CeBIT 2007 ณ เมืองแฮนด์โนเวอร์ ประเทศเยอรมันนี
  • เป็นตัวแทนบริษัทซอฟท์แวร์ไทยในโครงการ Thai IT Business Delegation to USA Go to Us Maket Progarm USA
  • นำผลิตภัณฑ์ไปโชว์ ในงานสัมมนาประจำปี Zend/PHP Conference & Expo 2007 San Francisco, USA
  • เข้าร่วมโครงการ CMMi Level 3 กับ Software Park Thailand
  • ได้รับรางวัลชมเชย จากงานสุดยอด SMEs แห่งชาติ ประจำปี 2549 
  • ขยายธุรกิจ และเปิดบริษัทในเครือ เพิ่มขึ้นอีก 1 บริษัท ได้แก่
      – SLC Training Center 
      – IT Media 
      – OpenServe (Thailand) Co.,Ltd 
      – Bater Trading 
  • เป็นตัวแทนประเทศไทยร่วมประกวด Software ในงาน APICTA ( Asia Pacific ICT Awards ) ที่จังหวัดเชียงใหม่
  • ได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายและศูนย์ Training Center ผลิตภัณฑ์ PHP โดย Zend ในเมืองไทย
  • ย้ายสำนักงานมาที่อาคารพหลโยธินเพลส ชั้นที่ 17 เลขที่ 408/74 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400 เพื่อรองรับจำนวนพนักงานของบริษัทที่เพิ่มขึ้น
  • ในเดือนมีนาคมบริษัทได้นำโปรแกรมซอฟต์แวร์ของบริษัทไปแสดงที่งาน CiBit 2005 ณ.เมืองแฮนด์โนเวอร์ ประเทศเยอรมนี
  • ในเดือนเมษายน ร่วมลงทุนในบริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด ให้บริการด้านระบบไอทีอินฟราสตรัคเจอร์ ครบวงจร
  • บริษัท ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Mai Best Return Star รอบสุดท้ายในงาน SET AWARDS 2005
  • ในเดือนตุลาคม บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม E-Office โดยพัฒนาโปรแกรม Benefit Work Flow 2000 เพื่อรองรับการกำหนดเงื่อนไขและเส้นทางของเอกสารและการทำงานในองค์กร เพื่อรองรับงานในภาคเอกชน
  • ในเดือนธันวาคม บริษัทได้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของ บริษัท ZEND ซึ่งเป็นบริษัท ผู้พัฒนา โปรแกรมเครื่องมือ PHP ที่มีผู้ใช้งานทั่วโลก
  • บริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 3 ล้านบาท เพิ่มเป็น 10 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าประมูลงานกับหน่วยงานราชการ ซึ่งการเพิ่มทุนครั้งนี้มีการเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นจากเดิม 7 คนเพิ่มเป็น 27 คน 
  • บริษัทได้แต่งตั้ง BVQI เป็น Certifield Body ในระบบ ISO 9001:2000 และได้ผ่านการรับรองแล้วเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม 2547
  • ในเดือนมีนาคม บริษัทได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชนและ ต่อมาในเดือนเมษายนบริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิม 10 ล้านบาท เพิ่มเป็น 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมในสัดส่วนเท่าเดิม และเป็นทุนชำระแล้วจำนวน 40 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายงานไปสู่ธุรกิจในรูปแบบของ SI ซึ่งต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น และเสนอ ขายต่อประชาชนอีก 10 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
  • ในเดือนสิงหาคม บริษัทได้ส่งผลิตภัณฑ์ EasyQuick For Report เข้าร่วมประกวดเพื่อชิงรางวัล Thailand ICT Award 2004 หรือ TICTA ในประเภท Business Application ในงาน Bangkok International ICT EXPO 2004 โดยมีผู้ส่ง  ผลงานเข้าประกวดประมาณ 100 กว่าบริษัท ซึ่งบริษัทได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 และได้เป็น ตัวแทนจากประเทศไทยเข้าประกวดในงาน APICTA*** 2004 
  • ในเดือนสิงหาคม บริษัท ได้รับการอนุมัติในการต่ออายุการขึ้นทะเบียนเป็นที่ปรึกษากระทรวงการคลังประเภท A* หมายเลข 911 ในฐานะ ที่ปรึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • บริษัทได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ CBI-ICT Program จากองค์กร CBI
    (Centre for The Promotion of Imports from Developing Countries) ประเทศเนเธอร์แลนด์ 
  • บริษัท ได้ดำเนินการจัดทำระบบ ISO 9001:2000 และจะดำเนินการขอรับรองในปี พ.ศ. 2547
  • บริษัทเข้าร่วมโครงการแปรสินทรัพย์เป็นทุนซึ่งเป็นการแปรสินทรัพย์ประเภทซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ทางปัญญาให้เป็นทุน โดยในเดือนธันวาคมบริษัทได้ยื่นขอเแปรสินทรัพย์เป็นทุนผ่านสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยเมื่อการแปรสินทรัพย์เป็นทุนนี้มีผลบังคับใช้จะส่งผลให้มีการเพิ่มค่าของสินทรัพย์ของบริษัท ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการหาหน่วยงานอิสระเพื่อประเมินมูลค่าสินทรัพย์ที่เหมาะสม
  • บริษัทได้เข้าร่วมโครงการ TQS รับรองโดยสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้ได้มาตรฐานของการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับ ISO/IEC 12207 
  • บริษัท ได้จดทะเบียนเป็นที่ปรึกษากระทรวงการคลังประเภท A* หมายเลข 911 ให้บริการในฐานะที่ปรึกษาสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
  • ความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญเพราะฉะนั้นมาตรฐานการดำเนินงานจึงเป็นสิ่งสำคัญดังนั้น SLC จึงเริ่มต้นที่จะนำมาตรฐานที่เป็นสากล อย่าง ISO9001 : 2000 มาดำเนินการภายในบริษัทโดยเข้าร่วมกับกรมส่งเสริม อุตสาหกรรม
  • บริษัท ได้รับเลือกจาก TA Orange Co,Ltd. ให้เข้าร่วมโครงการมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท  โดยรับผิดชอบในการพัฒนาซอฟต์แวร์ RMS เชื่อมกับระบบงานบัญชี SAP และระบบ Billing AMDOC  ซึ่งเป็นโครงการที่ใช้งานกับ Orange Shop ตามแผนคือมากกว่า 200 สาขาทั่วประเทศ ปัจจุบันซอฟต์แวร์ RMS  ได้ถูกใช้งานอยู่ที่ Orange Shop ทุกสาขา ที่เปิดให้บริการ (70 สาขา)
  • บริษัท ได้สมัครเข้า เป็น Partner กับบริษัท Oracle System ( Thailand ) Co. Ltd. และยังได้รับ Certified Professional Program as an Oracle8 Certified Database Administrator
  • บริษัท ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI ในด้านซอฟต์แวร์ โดยได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับกำไรสุทธิส่วนที่ได้จากการขายและให้บริการผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์มีกำหนดระยะเวลา 8 ปี
  • บริษัท เข้าร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออกโดยการนำ ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยบริษัทไปแสดงในงาน CEBIT 99 ที่เมืองแฮนโนเวอร์ ประเทศเยอรมันนี
  • ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัท เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1 ล้านบาท และต่อมาในเดือนพฤศจิกายนบริษัทได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3 ล้านบาท
  • บริษัท เล็งเห็นความสำคัญในการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ ได้เข้าร่วมกับกรมส่งเสริมการส่งออก โดยการนำ   ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดยบริษัทไปแสดง ในงาน COMDEX 98 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • บริษัท ได้เข้าร่วมก่อตั้งและเป็นสมาชิก สมาคมส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งประเทศไทย (ATSI)